เนิร์ดแอนด์ทราเวล

เนิร์ดแอนด์ทราเวล 
โดย นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์ 
   
     ผมเพิ่งทำหนังสือ self-publishing ชื่อ เวิร์ค แอนด์ ทราเวล ไปเมื่อไม่นานมานี้ครับ เป็นหนังสือแบบทำเอง พิมพ์เอง จัดจำหน่ายเองในจำนวนน้อย (ก็เพราะว่าต้องทำเองหมดนี่แหละ) แต่เป็นการทดลองทำที่สนุกมากสำหรับตัวเอง ลองหาความเป็นไปได้ใหม่ๆ ในยุคที่ทุกคนกำลังบอกว่าสิ่งพิมพ์กำลังจะเด้ด เอาเข้าจริงก่อนหน้านี้ก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันจะเด้ดหรือไม่เด้ด ความเป็นไปได้ก็ดูมีจริง หนังสือก็ปิดกันไปหลายหัว งานสัปดาห์หนังสือก็เหมือนขายได้น้อยลง แต่โชคดีด้วยความเนิร์ดและการได้ทราเวลไปหลายๆ ประเทศในช่วงปีสองปีนี้และพบเจอกันร้านหนังสือสนุกๆ ช่วยยืนยันว่า สิ่งพิมพ์อาจจะไม่เด้ด 

1. ICA, London 
     เอาจริงก่อนไปลอนดอนครั้งแรกนี่ ก็มัวแต่จะไปบิ๊กเบน ไปสะพานนั่นสะพานนี่อย่างเดียว โดยที่ไม่รู้เลยว่าจริงๆ แล้วลอนดอนเป็นเมืองที่เฟื่องฟูเรื่องสิ่งพิมพ์ทางเลือกมากๆ หนังสือหัวเล็กๆ หัวท้องถิ่นแจ๋วๆ กราฟิกงามๆ รวมตัวกันอยู่ในเมืองนี้ หรือบางเล่มก็โกเมนสตรีมได้เรื่อยๆ (เช่น Little White Lies) สุดท้ายจากมุ่งมั่นจะไปเยี่ยมเยียนโรงหนังอินดี้ที่ชื่อ ICA สิ่งที่น่าสนใจว่าหนังอินดี้ที่เขาฉายคือ เซ็กชั่นร้านหนังสือ ที่รวมนิตยสารหัวเล็กหัวน้อยมาวางเรียงกันเต็มแผง ตอนเห็นนี่คือแบบ นี่มันนิตยสารที่เราเห็นใน tumblr แต่ไม่เคยได้เห็นของจริงเลยนี่หว่า ก็นั่งหมกมุ่นยืนอ่านฟรีเป็นชั่วโมงๆ หันกลับมาด้านหลัง เจอบรรดาหนังสือจากสำนักพิมพ์เล็กๆ และหนังสือทำเองอีกหลายเล่มที่คอนเทนต์เนื้อหาแบบซูเปอร์เฉพาะทางมากๆ เช่น หนังสือข้อเขียนว่าด้วย เลสเบี้ยนล้วนๆ ข้อเขียนเกี่ยวกับเฟมินิสต์ผิวดำ ฯลฯ แม้ว่าทั้งหมดจะฟังดูเนื้อหาเครียด แต่พวกเลย์เอาต์และคุณภาพการผลิตของหนังสือนี่สวยงาม เท่ เก๋ไก๋ ความรู้ก็หล่อได้ ทำให้รู้ว่าโลกนี้แม่งไปกันถึงไหนแล้ว กูทำไรยู๊... (เสียงสูง) กลายเป็นว่าโรงหนังแห่งนี้
ทำให้เรารู้ว่าโลกนี้มีหนังสือที่น่าค้นหา และแจ๋ว และสวย และเท่ และมีความรู้อีกมากมาย , ที่นี่เปิดโลกมาก เพราะหลังจากนั้นไปเที่ยวที่ไหนต้องหาร้านหนังสือแบบนี้ตลอด 

2. ร้านอะไรจำไม่ได้เพราะหน้าร้านไม่มีป้าย แต่หนังสือดีมาก, Tokyo 
     ขออภัยที่หาชื่อให้ไม่ได้จริงๆ เพราะเสิร์ชอย่างหนักแล้วแต่ก็ไม่เจอ มันเป็นร้านที่เดินฟลุกเจอระหว่างที่จะมุ่งไปยังมิวเซียมที่ชื่อ MOT ในย่าน Koto คือเดินๆ แล้วก็เจอเลย จริงๆ เป็นร้านเล็กๆ ห้องเดียว แต่ตกแต่งดีงาม อยู่ในย่านชุมชนที่ไม่แน่ใจว่าใครจะมาพบเจอร้านนี้ได้ แต่ภายในร้านมีหนังสือหายากและแรร์มากมาย ทำให้เราได้เห็นพวกหนังสือลิมิเต็ดของบรรดาช่างภาพต่างๆเป็นครั้งแรก เช่น เฌอร์เกน เทลเลอร์ หรือ ดีวีดีชุดพิเศษกล่องใหญ่หนังสั้นเรื่อง I'm Here ของสไปค์ จอนซ์ สิ่งที่ได้เรียนรู้มากๆ จากร้านนี้คือ มันสวยมาก มันเอ๊กซ์คลูซีฟมาก และมันแพงมาก ซื้อไม่ได้ครับ ได้แต่ยืนตาละห้อย เข้าใจผู้หญิงเวลาอยากได้ของแบรนด์เนมทันที เป็นครั้งแรกที่รู้สึกว่าหนังสือก็เป็นของมีค่าราคามากๆ ได้เช่นกัน ปัจจุบันเสิร์ชทางกูเกิ้ลแมป คิดว่าร้านคงปิดกิจการไปแล้ว 

3. Printed Matter, New York
     ร้านนี้คือจุดพีกแห่งการมีกำลังใจในการทำหนังสือของตัวเอง มันคือร้านที่โด่งดังที่สุดของนิวยอร์กในด้านการมีหนังสือทำมือ พิมพ์เอง สำนักพิมพ์เล็ก ที่หลากหลายนานาประเภท เข้าไปครั้งแรกนี่เข่าทรุด เราจะเจอหนังสือในรูปแบบต่างๆ มากมาย บ้างก็เป็นเหมือนโปสการ์ดบ้าง บ้างก็โฟโต้บุ๊กประหลาดๆ บ้าง บ้างก็เป็นแผ่นพับเฉยเลย บ้างก็เป็นสูจิบัตรงานนั้นงานนี้บ้าง แต่ที่รู้ๆ คือ ทุกเล่มมีพื้นที่ของตัวเอง และทุกเล่มได้รับการจัดวางอย่างดี เป็นระเบียบ เวลาไปเดินดูก็จะคิดว่า ... ทำหนังสือแบบนี้ก็ได้เหรอวะ และสักพักก็จะคิดว่า ได้สิวะ ก็นี่ไง มันวางขายอยู่ตรงหน้านี่แหละ มันมีเยอะมากเป็นพันๆ เล่ม เหมือนคิโนะคูนิยะที่มีแต่หนังสือประหลาดๆ พอเดินออกมานี่ แม่งอยากกลับเมืองไทยไปโรงพิมพ์ทันที 

     การทราเวลไปยังร้านเนิร์ดๆ เหล่านี้ ทำให้ข้าพเจ้ามองเห็นความหลากหลายของหนังสือที่ไม่ถูกจำกัดอยู่แค่พ็อกเก็ตบุ๊ก หรือ แม็กกาซีน หรือ ฟรีก๊อปปี้ มันยังมีอะไรมากกว่านั้นที่ทำให้เรากลับมาสงสัยซ้อนอีกทีว่า สิ่งพิมพ์มันจะเด้ดได้ยังไงวะ (O,O)

Cr. หนังสือเค้าแมว ISSUE 00
อ่านเค้าแมวฉบับเต็มได้ที่ >> เค้าแมว ISSUE 00

DJ RIT

09:00-12:00

Listen Live

Now Playing