เวียนนา

เวียนนา

5-8 June 2017
เมืองสุดท้ายก่อนกลับ เลยขอพักสบายหน่อย จองอพาร์ทเม้นท์ที่มีครบทั้งห้องครัว ห้องรับแขก เครื่องซักผ้า เครื่องล้างจาน ผ้าเช็ดตัว ฯลฯ ราคาสามคืน 200€ แต่พอรูดบัตรตอนเช็คอิน ยอดเพิ่มมาอีก 40€ ถามเจ้าของว่ามาจากไหน แกก็เลื่อนให้ดู excluded cost (ในแอพ) ที่อยู่ด้านล่างว่าต้องจ่ายด้วย ก็ถามกลับไปว่าทำไมไม่ระบุให้ชัดเจนตอนจอง แกก็เฉย เซ็ง ถือเป็นบทเรียน 

กว่าจะได้เข้าไปแหล่งท่องเที่ยวในเมืองก็วันกลับ เพราะสองวันแรกอยู่แต่ในมิวเซียมกับออกไปดูโบสถ์นอกเมือง ที่แรกคือ Belvedere ที่มีภาพ The Kiss ของ Klimt อยู่ เข้าไปดูตอนแรกก็แปลกใจว่าทำไมให้ถ่ายรูป แต่ก็ไม่ได้ถามอะไร ให้ถ่ายเราก็ถ่าย แต่ที่จี้คือด้านข้างของรูปจะมีป้ายบอกว่าถ้าจะถ่ายเซลฟี่ให้ไปอีกห้องนึง ซึ่งเค้าจะพริ้นท์รูปออกมาใหม่ตั้งไว้ให้เซลฟี่โดยเฉพาะ แต่เอาเข้าจริง ๆ ก็เห็นคนเซลฟี่กับรูปจริงเยอะ รุ่นพี่ที่อยู่ที่นี่เล่าให้ฟังว่าตอนแกมาใหม่ ๆ เค้าไม่ให้ถ่าย แต่คงทนกระแสทัวร์จีนไม่ไหวเลยต้องยอม เพราะช่วงที่ผ่านมาคนจีนมากันเยอะ

ในมิวเซียนนี้นอกจากงานของ Klimt แล้ว ยังมีงานของอีกหลายศิลปินที่น่าสนใจ เช่น Fredrikson Stallart Hurricane ที่ทำขึ้นเมื่อปีที่แล้วเพื่อมาติดตั้งแทนงานเดิมที่เอาไปบูรณะ ดูไปเหมือนทองคำเปลวแผ่นยักษ์ที่ยับยู่ยี่ อีกงานที่ชอบคือ The Head ของ Franz Xaver Messerschmidt ที่เป็นงานปั้นหัวคนในคาแรคเตอร์ต่าง ๆ มีผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะวิแคราะห์ว่าเป็นงานที่ทำขึ้นเพื่อเยียวยาจิตใจของตัวเอง แล้วก็มีงานของ Egon Schiele ลูกศิษย์คนโปรดของ Klimt ด้วย ซึ่งก็มีงานแสดงของเค้าอยู่ที่ Albertina อีกมิวเซียมนึงซึ่งไปดูมาด้วย แนะนำนะฮะ Belvedere ใครมาเวียนนา ควรมา

อีกมิวเซียมนึงที่ชอบคือ KUNST HAUS WIEN. Museum Hundertwasser เป็นของ Friedensreich Hundertwasse แกเป็นศิลปินที่มีผลงานด้านสถาปัตยกรรมด้วย แต่ผมชอบงานเพ้นท์กับพิมพ์ของแกมากกว่า มีเอกลักษณ์ สีสันจัดจ้านดี ที่นี่จัดแสดงผลงานของแกเป็น permanent exhibition ส่วน temporary exhibition ช่วงที่มาจัดแสดงภาพถ่าย landscape ของ Edward Burtynsky ในหัวข้อ 'Wasser' (น้ำ) อยู่ แกเป็นช่างถ่ายภาพที่ตระหนักถึงวิกฤติของน้ำบนโลกใบนี้ แกเลยออกตระเวนไปบันทึกภาพตามสถานที่ต่าง ๆ ทั่วโลก แล้วนำมาจัดแสดง เพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักถึงปัญหานี้เช่นเดียวกับแก ซึ่งดีมากเลย ถ้าเราช่วยกันใช้ทักษะความสามารถที่ตัวเองมี เพื่อแก้ปัญหาของส่วนรวม โลกคงหน้าอยู่ขึ้นเยอะ ใครถนัดอะไรก็ทำไป คนละไม้คนละมือ งานแสดงภาพของแกชุดนี่ นอกจากจะทำให้เราได้ชมความงามท่ามกลางวิกฤติของมนุษยชาติแล้ว ยังทำให้อยากรู้ถึงวิธีการบันทึกภาพของแกด้วย อยากรู้ว่าถ่ายได้ยังไง บางภาพนี่ถ่ายก่อนจะมีโดรนอีกนะ คงต้องไปหาคำตอบเพิ่ม

อีกเรื่องที่อยากเล่าคือคอนเสิร์ตของ Hans Zimmer จริง ๆ การมาเที่ยวครั้งนี้เกิดขึ้นเพราะแกเลย หลังจากได้ดูถ่ายทอดสดจาก Coachella ก็คิดว่าต้องหาโอกาสไปดูจริง ๆ ให้ได้สักครั้ง ตอนแรกเล็งไว้ที่ออสเตรเลีย แต่ขอวีซ่าไม่ทัน เลยดูตารางทัวร์เห็นว่ามายุโรปด้วย เผอิญมีเพื่อนจะมาดู Depeche Mode ที่ปรากพอดี ก็เลยขอติดมาด้วย แถมมี Primavera เพิ่มมาอีก จากที่วางไว้ว่าจะเที่ยวสั้น ๆ ก็เลยยาวเลย 

โชว์ของลุงแกดีมาก เต็มที่ทั้งแสงและเสียง เป๊ะหมด ตื่นตาตื่นใจมาก ถือว่าเป็นคอนเสิร์ตที่มีเครื่องดนตรีเยอะ และชัดทุกชิ้น จะว่าไปงานของแกเป็นเหมือนพระรอง ที่คอยส่งเสริมซีนต่าง ๆ ในหนัง จนทำให้บางทีเราก็ลืมฟังเพลงของแกอย่างตั้งใจ แต่พอดูคอนเสิร์ตก็ทำให้เห็นคุณงามความดีของเพลงมากขึ้น และตั้งใจฟังเพลงของแกมากขึ้นด้วย อีกเรื่องที่ชอบมากคือคนดู คือแทบจะไม่มีใครยกมือถือขึ้นมาถ่ายรูปเลย ผมนับได้ข้างหน้าผมมีอยู่แค่ 5 คน รวมผมด้วยก็หก แล้วเวลาเค้ายกขึ้นมาก็จะรีบเอาลง ไม่มีถือแช่นาน ๆ มันเลยทำให้ไม่มีอะไรมากวนตาเวลาชมคอนเสิร์ต มันทำให้มีความรู้สึกเกรงใจคนอื่นนิด ๆ เวลาถ่าย เพราะฉะนั้นถ่ายเสร็จก็รีบเอาลง ไม่มีเวลาที่จะเลือกมุมอะไรมาก ลองสังเกตจากรูปสิ บริเวณคนดูนี่มืดสนิทเลย ถ้าต่อไปมีคนถามว่าชอบคอนเสิร์ตไหนที่ดูมามากที่สุด ก็คงเป็นงานนี้แหละ ประทับใจทั้งคนดูและศิลปิน แต่ติดอยู่นิดเดียว คือออสเตรียเป็นประเทศที่ใช้ภาษาเยอรมัน แล้วลุงแกก็เป็นคนเยอรมัน ในคอนเสิร์ตแกเลยพูดภาษาเยอรมันล้วน ฟังไม่รู้เรื่องเลย 

ทริปนี้จบลงที่เมืองนี้ ขอบคุณเพื่อนร่วมทริป และเจ้าถิ่นเจ้าที่เจ้าทางที่ต้อนรับดูแลพาเที่ยวทุกท่าน และที่สำคัญขอขอบคุณเจ้านายที่น่ารักแห่ง Cat Radio พี่จ๋อง น้องบูมที่ปล่อยให้ลางานยาว ๆ แบบนี้ได้ ซึ้งมาก.

เรื่องโดยดีเจวราฤทธิ์ มังคลานนท์

ติดตามความเคลื่อนไหวและฟัง CAT RADIO 24 ชั่วโมง ได้ที่
www.thisiscat.com
APPLICATION CAT RADIO ทั้งทาง ITUNES และ PLAYSTORE
FACEBOOK : https://www.facebook.com/thisiscatradio
INSTAGRAM : ThisisCatRadio
TWITTER : @ThisisCatRadio