พลอย ตวงพรรษ เจ้าของร้าน Trackaddict Records
...ทำสิ่งที่ชอบทุกวัน = มีความสุขทุกวัน...
เรียบเรียงจากรายการแมวค้นฅน 8 มีนาคม 2561 ที่ Cat Radio
ฟังคลิปเสียงสัมภาษณ์ฉบับเต็มได้ที่
Trackaddict Records
ดีเจเปิ้ลหน่อย : แมวค้นฅนวันนี้เรามีแขกพิเศษเช่นเคย ทุกๆ สัปดาห์เราก็จะมาเจอกันหนึ่งครั้งเท่านั้น เพราะฉะนั้นแขกรับเชิญที่เราเชิญมาในรายการนี้ต้องพิเศษสุดๆ วันนี้ค่ะ เราได้เชิญคุณพลอย ตวงพรรษ เจ้าของร้าน Trackaddict Records มาคุยกัน น้องพลอยเป็นเจ้าของร้านแผ่นเสียงเป็นร้านเล็กๆ อยู่ตรงซอยสุขุมวิท69
พลอย : ใช่ค่ะ
ดีเจเปิ้ลหน่อย : เป็นร้านที่อยู่ในจุดที่ไม่ควรจะเปิดร้านอะไรได้เลย อยู่ในซอยและอยู่ในมุมตึกแต่ว่าลูกค้าเยอะมาก มีลูกค้าประจำหลายคนเนาะ ขายกาแฟด้วย
พลอย : ใช่แล้ว
ดีเจเปิ้ลหน่อย : มีแฟนๆ ตามไปซื้อเพียบเลย
พลอย : ใช่แล้ว
ดีเจเปิ้ลหน่อย :วันนี้เราจะมาคุยถึงเรื่องแผ่นเสียง คุยถึงเรื่องเพลงของพลอยที่ชอบฟังนู้นนี้นั้นเนาะว่าเป็นไงมาไงบ้าง ย้อนกลับไปสมัยเด็กเริ่มต้นฟังเพลงได้อย่างไร
พลอย : น่าจะเริ่มจากที่คุณพ่อค่ะ นี่คืออิทธิพลเลยของพลอย คือคุณพ่อเป็นนักดนตรี เล่นกลอง ก็เปิด เฮฟวี่ให้ฟัง Deep Purple, CCR (Creedence Clearwater Revival), Grand Funk Railroad
ดีเจเปิ้ลหน่อย : พ่อคะหนูสาวค่ะ
พลอย : ใช่พ่อก็เลยเปิด Ray Charles ให้ฟังแล้วเปิด ‘Hit The Road Jack!’ ก็เลย ชอบโซลมาตั้งแต่เด็กๆ
ดีเจเปิ้ลหน่อย : ตอนนั้นที่เรานั่งฟังคุณพ่อเปิด คือ ต้องเปิดแผ่นเสียงเนาะ
พลอย : ใช่บางทีร้องให้ฟัง
ดีเจเปิ้ลหน่อย : เปิดหลายแนวเหมือนกันเนาะ
พลอย : ใช่ค่ะแล้วส่วนใหญ่ก็เล่าถึงยุคเซเว่นตี้ให้ฟังว่าถนนเพชรบุรีคือผับหมดเลยนะ เขาก็ไปเล่นดนตรีตามผับ สาวๆ กรี้ดไง พ่อหล่อ
ดีเจเปิ้ลหน่อย : นักดนตรีด้วย หน้าตาดีด้วย อย่างนี้สาวตรึมแน่นอน
พลอย : ตอนนี้คุณพ่อก็อยู่ที่ร้านด้วยนะถ้าลูกค้ามาก็จะเห็นพ่อหนูอยู่ด้วยตลอดเพราะคุณพ่อทำออฟฟิศอยู่ชั้นบน
ดีเจเปิ้ลหน่อย : ไม่ได้เกี่ยวกับการมาเฝ้าลูกสาว
พลอย : ไม่ๆ พ่ออยู่ก่อน พ่อทำออฟฟิศอยู่ข้างบน ตั้งแต่ตอนที่พ่อกลับมาจากนิวยอร์ก ใหม่ๆ แล้วพ่อก็บอกว่าตรงนี้ว่าง อยู่กับพ่อนี่แหละ ตึกเดียวกันก็เลยมาอยู่กับพ่อ
ดีเจเปิ้ลหน่อย : อยู่ในตึกสุขุมวิท 69 เหมือนกัน
พลอย : ใช่ค่ะ
ดีเจเปิ้ลหน่อย : ลงมาฟังเพลงกับน้องพลอยบ่อยๆ
พลอย : ส่วนใหญ่จะเปิดเพลงให้ลูกค้าพลอยฟัง อย่างพ่อชอบ CCR พอลงมาไม่เจอแผ่นแล้ว เราก็บอก “อ๋อหนูขายไปแล้วค่ะ” พ่อก็ “อ้าว ขายไปแล้วพ่อจะฟังอะไร”
ดีเจเปิ้ลหน่อย : เขาเสียดายไหม เพราะว่าบางทีคนที่ชอบเพลงมากๆ ชอบแผ่นมากๆ พอหลุดจากมือจะมีความ...“โอ๊ย แผ่นนี้จะหาได้อีกหรือเปล่า”
พลอย : ก็จะบอกลูกค้าว่าถ้าออกจากร้านไปแล้ว ไม่ซื้อไป เดี๋ยวเขาจะไปหาเนื้อคู่คนใหม่นะ บางทีแผ่นมันเลือกเนื้อคู่นะ
ดีเจเปิ้ลหน่อย : เขาเลือกเรา ไม่ใช่เราเลือกเขา ช่วยเข้าใจด้วยเราไม่ได้มีสิทธิ์เลือกนะคะ แผ่นเขาเลือกเรา
พลอย : ลูกค้าบอกเดี๋ยวไปทานข้าวแป๊บหนึ่งแล้วกลับมา คิดว่าเวลาไม่ถึงชั่วโมง แผ่นจะไปไหน ...สรุป... ไปจ้า
ดีเจเปิ้ลหน่อย : แล้วเราในฐานะคนขาย สมมติว่าเราชอบ CCR มากๆ แล้วเขาเอาแผ่นนี้ไปแล้วเรารู้สึกเสียดายบ้างไหม
พลอย : เราก็จะไม่รู้สึกอะไรเพราะมีคอลเลกชั่นของเราอยู่แล้ว เคยเปิดร้านใหม่ๆ เอาคอลเลกชั่นตัวเองมาไว้ที่ร้านลูกค้าบอก “ขายเหอะ” เราก็โอเคค่ะขาย หลังจากนั้นก็เลยเก็บคอลเลกชั่นตัวเองไว้บ้าน
ดีเจเปิ้ลหน่อย : ตัดไฟตั้งแต่ต้นลมอย่าให้ได้เห็น(หัวเราะ) อย่าให้รู้ เก็บไว้ตรงนี้แหละดีแล้ว
จากความชอบฟัง สู่การสะสมแผ่นเสียง : BKK – New York – BKK
ดีเจเปิ้ลหน่อย : น้องพลอยสนใจเรื่องเพลง แน่นอน ตั้งแต่ตอนที่คุณพ่อเปิดให้ฟัง แล้วก็ฟังเพลงมาเรื่อยๆ แต่สนใจเรื่องแผ่นเสียงจริงๆ เมื่อไหร่
พลอย : ตอนไปอยู่นิวยอร์กค่ะ พอไปเจอ... อ้าว แผ่นนี้เราเคยฟังตอนเด็ก แล้วไม่แพงมาก ก็เลยซื้อเก็บ ซื้อทุกวัน ไม่มีตังค์กินขนมเพราะซื้อแผ่นเสียง คือลงจากบ้านมา เดินไปสักบล็อกสองบล็อกก็เป็นร้านแผ่นเสียง
ดีเจเปิ้ลหน่อย : Destiny
พลอย : Destiny มากๆ ซื้อซ้ำๆ เห็นถูก ก็ซื้อเก็บๆ ตอนที่แพ็กของลงเรือกลับบ้านนี่ก็ โห...แผ่นซ้ำเยอะจังเลย จนแม่บอกว่า “ถ้ายูไม่ทำธุรกิจกับแผ่นเสียงนี่ ยูจะไปทำอะไร”
ดีเจเปิ้ลหน่อย : ซึ่งที่น้องพลอยเล่าคือคุณพ่อคุณแม่สนับสนุนทั้งคู่เลย
พลอย : ใช่ค่ะคือมาถึงจุดที่เราได้ทำอะไรที่ตัวเองชอบแล้ว ทำให้เรามีรายได้เข้ามานี่ แฮปปี้นะ พลอยชอบแผ่นเสียง สามารถทำธุรกิจกับแผ่นเสียง แล้วพลอยได้ตังค์ พลอยก็เลยทำให้ดี แล้วก็มีความสุข เพราะฉะนั้นเวลาคุยกับลูกค้า ก็แฮปปี้
ดีเจเปิ้ลหน่อย : เหมือนได้เพื่อนน่ะ ฟังน้องพลอยคุยกับลูกค้าเหมือนไม่ใช่ลูกค้า แต่เหมือนเพื่อนกันมากกว่า เหมือนมีคนมาคุยกันเรื่องเพลงมีสังคมที่เป็นแบบนั้น
พลอย : พลอยจะได้ความรู้จากลูกค้าเยอะมาก คือซื้อแผ่นเสร็จแล้วนะ แต่นั่งต่อสองชั่วโมง คุยเรื่องหาหมอที่ไหนดี หรือมีน้องแล้วจะเข้าโรงเรียนที่ไหนดี คุยได้ทุกเรื่อง เราสบายใจที่คุยกับเขา เขาก็สบายใจที่ได้คุยกับเรา
ดีเจเปิ้ลหน่อย : อย่าว่าแต่เปิดร้านแผ่นเสียงเลยค่ะ คนนี้เปิดร้านอะไรลูกค้าติดทั้งนั้นแหละค่ะ เปิ้ลหน่อยว่าไม่ได้เกี่ยวกับแผ่นเสียง
พลอย : ช่างคุยค่ะ คุยได้ทุกเรื่อง
ความฝันของพลอย ตวงพรรษ : จากคุณครูในฝัน สู่ชีวิตจริงในนิวยอร์ก
ดีเจเปิ้ลหน่อย : ตอนเด็กๆ จริงๆ อยากเป็นอะไร
พลอย : จริงๆ อยากเป็นคุณครู พลอยเป็นเด็กที่ตั้งใจเรียนนะ เป็นคนชอบเรียนหนังสือ เรียนพิเศษทุกวันอยากสอนหนังสือ แต่สุดท้ายก็เป็นอย่างนี้ (หัวเราะ)
ดีเจเปิ้ลหน่อย : อยากเป็นครูแล้วปริญญาตรีเรียนอะไร
พลอย : เรียนสังคมวิทยา ที่ ม. ธรรมศาสตร์ พอเรียนเสร็จ คุณแม่บอกให้ไปอยู่ที่แคลิฟอร์เนีย ถามว่า “เรียน Business ไหม” เราก็ไม่เรียน ตอนนั้นมีเพื่อนเรียนอยู่นิวยอร์กเยอะมาก อยากไปใช้ชีวิตที่นั่น แม่ก็ปล่อยให้ไปอยู่นิวยอร์ก เราก็เรียนแฟชั่นสิคะ จะเรียน Business ได้ไง
ดีเจเปิ้ลหน่อย : สวยๆ
พลอย : สวยๆ แบบฉันเรียนจบแฟชั่นมานะ
ดีเจเปิ้ลหน่อย : เคยคิดไหมว่าอยากกลับไปทำงานด้านแฟชั่นที่เรียนมาบ้าง
พลอย : ไม่เลยค่ะ ตอนนี้แฮปปี้มากกับการอยู่กับแผ่นเสียงทั้งวัน
ดีเจเปิ้ลหหน่อย : เจ๋งเนอะ เป็นผู้หญิงมีความสุข นอกจากฟังแผ่นตัวเองแล้ว ก็ยังได้ฟังแผ่นลูกค้าอีกด้วย
พลอย : (หัวเราะ) ใช่แล้ว
ดีเจเปิ้ลหน่อย : สาเหตุที่ไปใช้ชีวิตในอเมริกาตอนนั้น คือ เราเรียนจบแล้ว แม่ก็อยู่ที่โน่นเลยชวนไป แต่ไม่อยู่กับแม่ ไปอยู่นิวยอร์ก
พลอย : ใช่ อยู่นิวยอร์ก 7 ปี
ดีเจเปิ้ลหน่อย : ปกติเขาไปกัน ปริญญาโทจบกลับมา ปีครึ่งเนอะ น้องพลอยติดใจอะไรถึงอยู่ 7 ปีคะ
พลอย : ไลฟ์สไตล์มันได้ อยากใช้ชีวิต
ดีเจเปิ้ลหน่อย : ทำอะไรบ้าง
พลอย : ตอนนั้นทำเยอะมาก เป็นเด็กเสิร์ฟร้านอาหาร แล้วก็มาเป็นบาร์เทนเดอร์ วินเทอร์เล่นสโนว์บอร์ด ซัมเมอร์ปั่นจักรยาน
ดีเจเปิ้ลหน่อย : สวยๆ ชีวิตดี๊ดี (หัวเราะ) ใครจะอยากกลับ
พลอย : ใช่ ตอนนั้นผู้ชายจะขอแต่งงาน เลยกลับมา (หัวเราะ)
ดีเจเปิ้ลหน่อย : อุ้ย (หัวเราะ)คุ้มๆ
พลอย : (หัวเราะ) คุ้มมาก
ดีเจเปิ้ลหน่อย : อยู่นิวยอร์กนี่ ได้อะไรกลับมาบ้างคะ
พลอย : อย่างน้อยก็ได้ประสบการณ์ที่ดีกลับมา นิวยอร์กสอนให้อดทน ทนได้ทุกสถานการณ์จริงๆ
ดีเจเปิ้ลหน่อย : เราคิดไหมว่า ถ้าเราไปอยู่เมืองอื่น เราจะเป็นคนอีกแบบหนึ่งไหม
พลอย : เราคิดว่าถ้าเราอยู่แอลเอกับแม่ คงจะเป็นอีกแบบหนึ่ง แต่ถ้าให้กลับไปตอนนี้ ที่นิวยอร์ก คงไปเที่ยวแหละ คือ มองกลับมา อยู่ไปได้ไงตั้ง7-8 ปี แต่ก็อยู่มาได้
ดีเจเปิ้ลหน่อย : แผ่นเสียงที่สะสม ก็เรียกว่าแวดล้อมด้วยคนที่นิวยอร์กด้วยเนาะ
พลอย : ใช่ๆ คือเราสามารถลงซับเวย์ไปแล้วเจอคนเล่นเปิดหมวก เล่นเพลงแจ๊ส เป่าแซ็กฯ ร้องโชว์ นิวยอร์กเป็นเมืองที่มีเสน่ห์มากๆ ค่ะ ติดใจ
Life is Jazz
ดีเจเปิ้ลหน่อย : สังเกตแผ่นที่น้องพลอยหยิบมาเป็นตัวอย่างวันนี้ เป็นแผ่นแจ๊สทั้งหมด
พลอย : (หัวเราะ) ชอบ หลงรักแจ๊ส พูดเลย ตอนอยู่นิวยอร์ก บาร์แจ๊สเยอะมาก เป็นแจ๊สที่เราไม่เคยฟัง แจ๊สอะไรฟังยากขนาดนั้นน่ะ แต่ก็ฟังแล้วเพลินดีนะ
ดีเจเปิ้ลหน่อย : เหมือนบาร์แจ๊สที่เมืองไทยไหมคะ
พลอย : ไม่เหมือนเลยค่ะ เป็นอีกฟีลหนึ่ง ทั้งบรรยากาศ และเป็นแจ๊สฟังยากน่ะ ไม่มีโน้ต แบบเป่าๆ แล้วก็แบบตีๆ แต่พอเราฟังแล้วอิน เข้าใจ ชอบ
ดีเจเปิ้ลหน่อย : บางทีเป็นเรื่องของศิลปะเนอะ พูดยาก อย่างเวลาเราดู เราก็ไม่ค่อยแน่ใจว่า อย่างนี้คือเพราะใช่ไหม เขาพยายามจะบอกอะไร
พลอย : แต่ที่เมืองไทย มีร้านหนึ่งที่พลอยรู้สึกว่าฟีลใกล้ๆ กัน คือร้าน S’Mores พลอยเคยไปฟังตอนเล่นสด ดีมากค่ะ ฟีลเหมือนเราฟังอยู่ที่นิวยอร์กเลย
ดีเจเปิ้ลหน่อย : ต้องลองเนอะ เพราะเขาบอกบางทีดนตรีพาเราไปได้ถึงไหนต่อไหน โดยที่แค่ฟังอย่างเดียว อย่างเรารู้สึกว่าไปผับแล้วจะสนุกกับเพลงที่เราร้องได้ เพลงที่เรารู้จัก แต่บางทีฟังแบบอื่น ก็พาเราไปได้ไกลกว่านั้นอีก จริงๆ มีเยอะๆ ก็ดี
Coffee x Music
ดีเจเปิ้ลหน่อย : ร้านของน้องพลอยนอกจากแผ่นเสียงก็มีขายกาแฟด้วย
พลอย : ใช่ค่ะ
ดีเจเปิ้ลหน่อย : เป็นกาแฟแบบไหนคะ
พลอย : ก็กาแฟสดนี่แหละค่ะ กาแฟแบบบ้านๆ แต่อร่อย
ดีเจเปิ้ลหน่อย : มีเมนูเด็ดไหมของร้าน
พลอย : ขายดีสุดก็อเมริกาโน่ ลูกค้าบอกว่า อเมริกาโน่ร้านพลอยอร่อยมาก คนกินเช้า
กินกลางวัน แล้วก็กินเย็น
ดีเจเปิ้ลหน่อย : เขาจะขอส่วนลดแผ่นสียงหรือเปล่า เลยบอกว่ากาแฟอร่อยมาก (หัวเราะ)
พลอย : ปกติลูกค้ามาซื้อแผ่นเสียง พลอยให้ทานกาแฟฟรีอยู่แล้ว เป็น Gift
ดีเจเปิ้ลหน่อย : นั่นไง เขาชมเพราะได้ฟรี
พลอย : แต่พลอยขายด้วยนะ ขายคนในตึกนั้น เป็นออฟฟิศ ก็โชคดีที่แถวนั้นมีชาวญี่ปุ่น เกาหลีอยู่เยอะ กินกาแฟดุมาก
ดีเจเปิ้ลหน่อย : อย่างนี้ถ้าเราไม่ซื้อ แบบยังไม่มีตังค์ซื้อแผ่นเสียง ยังนึกไม่ออกว่าเราจะซื้อแผ่นไหน ไปกินกาแฟได้
พลอย : ใช่ มากินกาแฟได้นิดหน่อย
ดีเจเปิ้ลหน่อย : ไปนั่งคุยได้
พลอย : ใช่ แม่ค้าคุยเก่งมาก
ดีเจเปิ้ลหน่อย : แม่ค้า Friendly สุดๆ เรามีคำถามเกี่ยวกับร้านของน้องพลอย ที่เปิดมาประมาณ 2 ปีแล้ว เปิดทุกวันไหมคะ เราทำแบบ Full time ไหม
พลอย : ส่วนใหญ่ก็จะเบี้ยวๆ ลูกค้า วันอาทิตย์บ้าง อยากไป Chill ร้านอื่นบ้าง แต่ช่วงนี้ลูกค้าบอกเปิดทุกวันได้ไหมครับ เพราะเขาว่างแค่เสาร์อาทิตย์ ช่วงนั้นก็เลยเปิด 7 วัน คือปกติจันทร์ถึงศุกร์ พลอยจะเปิดตั้งแต่ 8 โมงครึ่งถึงทุ่ม 2 ทุ่ม หรือแล้วแต่จะปิดน่ะ ถ้าลูกค้าโทรมา “น้องพลอยวันนี้พี่เข้ามา 2 ทุ่มนะ” เราก็จะรอลูกค้าเพราะบ้านเราใกล้ 2 ซอยก็ถึงแล้ว
ดีเจเปิ้ลหน่อย : ถ้าจะไปประมาณทุ่ม 2 ทุ่ม ก็โทรไปก่อน หรือมีเพจก็คุยกันไว้ก่อนได้
Vinyl Shop x Life
ดีเจเปิ้ลหน่อย : มาเป็นแม่ค้าขายแผ่นเสียงเต็มตัวได้อย่างไรคะ
พลอย : คือ ตั้งแต่ตอนอยู่นิวยอร์ก ก็รักแผ่นเสียงมาก คิดแล้วว่าจะทำธุรกิจเกี่ยวกับแผ่นเสียง ก็เลยเริ่มสร้างเพจ สร้าง Instagram ถ่ายรูปอัพเดทลง แล้วก็มีลูกค้าติดต่อมา ตอนนั้นเราอยู่นิวยอร์ก มีเพื่อนบินกลับเมืองไทยทุก 2 วีค เราก็ฝากแผ่นกับเพื่อนกลับมาให้ลูกค้า ก็เลยมีฐานลูกค้ามาเรื่อยๆ ก่อนเปิดร้านนี่พลอยขายใน Instagram มาประมาณ 2 ปี แล้วตอนนั้นกลับมาเที่ยวเมืองไทยก็เริ่มไปออกบูทขายของ ขายแผ่นเสียง ที่แรกน่าจะเป็น K Village ขายแค่ 3 ลัง ประมาณ 150 แผ่น แล้วได้ลูกค้ากลับมา มีฐานลูกค้าแน่นแล้ว กลับไปนิวยอร์กรอบหนึ่งแล้วก็ติดแผ่นกลับมาขาย เปิดร้านจริงจัง
ดีเจเปิ้ลหน่อย : 150 แผ่นแรกนี่ เลือกอย่างไรคะ เลือกที่เราชอบ หรือคิดว่าลูกค้าน่าจะชอบแบบไหน
พลอย : ตอนนั้นไม่รู้ว่าคนไทยฟังอะไร ชอบฟังอะไร ก็เลยเอาแต่ที่เราชอบไป เป็นพวกแนวโซลกับร็อก 70’s ตอนนั้นขาย สตีวี่ วันเดอร์ ไมเคิล แจ็คสัน สตีวี่ วันเดอร์ มาร์วิน เกย์ ๆ ได้เยอะมาก เกือบ 4 ปีที่แล้ว
ดีเจเปิ้ลหน่อย : เปิ้ลหน่อยว่าน่าจะเป็นยุคบูมแรกของแผ่นเสียง คือเมืองไทย คนเล่นแผ่นเสียง คนที่ฟังแผ่นเสียงจริงๆ เขาก็ฟังกันมาเรื่อยๆ สะสมกันมาเรื่อยๆ แต่ว่ามีอยู่ช่วงหนึ่งประมาณ 4-5 ปีที่แล้วที่ทุกคนเล่นแผ่นเสียงหมด อย่างที่บอกว่าบูม คือกลับมาจริงๆ รู้สึกกันว่าเสียงดีจริงๆ คลาสสิกจริงๆ ฟังเพลินจริงๆ น่าจะช่วงนั้นเนาะ
พลอย : ใช่ กลับมาถูกยุคพอดี ถูกที่และถูกเวลา (หัวเราะ)
ดีเจเปิ้ลหน่อย : อือ เจ๋งน่ะ แผ่นแรกที่ขาย จำได้ไหมคะว่าเป็นแผ่นอะไร
พลอย : ไมเคิล แจ็คสันค่ะ ‘Thriller’ จำได้เลย น่าจะเป็นแผ่นที่พลอยคิดว่า จุดประกายให้พลอยคิดว่า อ๋อ ขายได้นี่ เพราะมันซ้ำ นิวยอร์กมีทุกร้านเลย เราก็ขายสิ ขายๆ
Happy Everyday
ดีเจเปิ้ลหน่อย : ความสนุกของการขายแผ่นเสียงสำหรับน้องพลอยคืออะไร
พลอย : คือการได้คุยกับลูกค้าค่ะ พลอยได้ความรู้จากลูกค้าเยอะมาก เพราะบางทีคนที่เข้ามาหาเรา เขาเก็บแผ่นมานานกว่าเรา ฟังเพลงมาเยอะกว่าเรา ก็แชร์กันค่ะ สนุกเวลาได้คุย เหมือนคุยกับพี่เปิ้ลหน่อยอย่างนี้ เราก็คุยกับลูกค้าแบบนี้ เหมือนเพื่อนๆ
ดีเจเปิ้ลหน่อย : (หัวเราะ) ก็เลยเรียกกับลูกค้าว่าเพื่อนๆ
พลอย : เพื่อนก็ “พลอยซื้อนี่มาขายสิ” แจ๊สต้องฟังอันนี้นะ คนนี้ ปั๊มนี้นะ ปั๊มบลูโน้ต (Blue Note) ลูกค้าเป็นคนแนะนำพลอยด้วยนะว่าควรจะเอาอะไรมาขาย แล้วบางทีพลอยก็ถามลูกค้าด้วยว่า “เอาอะไรมาขายดีล่ะ”
ดีเจเปิ้ลหน่อย : เมื่อกี๊พลอยพูดคำว่า “ปั้มบลูโน้ต” อธิบายนิดหนึ่งว่าคืออะไร
พลอย : “บลูโน้ต” ก็คือ ค่ายเพลงแจ๊ส มีทั้งหมด 15 ปั๊มค่ะ แล้วแต่ละปั๊มนี่ พลอยก็ไม่ได้สายลึก แต่ถ้าเห็นปั้มบลูโน้ต พลอยจะเก็บ เดี๋ยวนี้มีทั้งแบบคลาสสิกเรคคอร์ด ที่คิดว่าเป็นปั้มที่ดีที่สุด เสียงดีที่สุด
ดีเจเปิ้ลหน่อย : วิธีเราดูแผ่น สมมติว่า ไมเคิล แจ็คสัน มีหลายที่ผลิตออกมา เรามีวิธีดูอย่างไร ถ้าเราอยากซื้อ ต้องเช็กอะไรบ้าง
พลอย : จะมีเลขนัมเบอร์อยู่แล้วค่ะให้เราเช็ก ปกหลัง จะเขียนอยู่เลยว่าปรินต์อะไร US, Holland, UK แต่ส่วนใหญ่พลอยซื้อที่อเมริกาก็เป็นปรินต์ US เกือบทั้งหมด
ดีเจเปิ้ลหน่อย: มีแผ่นหนา แผ่นบาง เราต้องเช็dด้วยไหมคะ หรือว่าจริงๆ แค่ดูว่ามาจากไหน ก็เดาคุณภาพได้ประมาณหนึ่ง
พลอย : ใช่ เดาคุณภาพเสียง ประมาณนั้น
ดีเจเปิ้ลหน่อย : อะไรที่ทำให้ร้านขายแผ่นเสียงอย่าง Trackaddict Recrods อยู่ได้อย่างมีความสุข
พลอย : ก่อนอื่นเราต้องมีความสุขกับสิ่งที่ทำก่อน เพราะพลอยมีความสุขมาก เวลาที่พลอยมีความสุขในการทำอะไรอะ เวลาที่ลูกค้ามาก็เหมือนได้พลังดีๆ กลับไป คุยกันสนุกสนานเฮฮาก็แฮปปี้ มีแต่สิ่งดีๆ ไม่มีอะไรที่จะต้องดาวน์ หรือไม่ดี เพราะฉะนั้นก็มีความสุขน่ะ
__________________________________________________________________
ติดตามพลอยและแผ่นเสียงของเธอได้ที่
Facebook : trackaddictrecord sukumvit69
Instagram : trackaddict_plloyh
ติดตามรายการแมวค้นฅนและร่วมค้นแรงบันดาลใจจากบุคคลหลากหลายอาชีพได้ที่ www.thisiscat.com, app: Cat Radio, fb/thisiscatradio ทุกวันพฤหัสบดี 21.00-22.00 น.