อ่านหลังค้น โต้ง Twopee

ว่ากันว่านี่คือปีที่ดีที่สุดปีหนึ่งในชีวิตการทำงานของ Twopee Southside (ทูพี เซาท์ไซด์) หรือ โต้ง- พิทวัส พฤกษกิจ หรือ โค้ชโต้ง The Rapper Thailand  แมวจึงชวนเขามาค้นเรื่องราวของปีนี้และหลายปีที่ผ่านมา รวมถึงความคิด

ต่อเรื่องราวตรงหน้า

     เรียบเรียงจากรายการ แมวค้นฅน 17 พฤษภาคม 2561 ที่ Cat Radio 

     สัมภาษณ์โดย ดีเจสับปะรดแนน – ณัฐกฤตา พงษ์ธนานิกร 

     ฟังเทปฉบับเต็มได้ที่  https://www.youtube.com/watch?v=8OI2NnfUMuI&t=3s 

 

เพลง ‘ดอกไม้’  -  Twopee Southside Feat. ตู่ ภพธร (prod by Wolfgang,Memphis)

 

Yo! Twopee

ขอต้อนรับเข้าสู่แมวค้นฅนค่ะ แร็ปไปค้นไปกับ TWOPEE SOUTHSIDE สาวๆ น่าจะกรี๊ดกันใช้ได้ ขอต้อนรับโต้ง พิทวัส พฤกษกิจ 

     เยส สวัสดีครับ แคท เรดิโอ๊ 

 

ที่จบไป คือ เพลงดอกไม้ ที่ฟีเจอริ่งกับ ตู่ภพธร ก่อนอื่นเลย อัพเดตผลงานที่กำลังทำตอนนี้หน่อยค่ะ 

     ตอนนี้กำลังผลิตอัลบั้มเดี่ยวอัลบั้มอัลบั้มแรกนะครับ ก็ตั้งใจซุ่มซ้อมทำอยู่ แล้วก็มีรายการ The Rapper ที่กำลังทำกับช่องเวิร์คพอยท์ด้วยครับ เป็นโค้ชในรายการ 

 

อัลบั้มเดี่ยวนี้น่าจะเสร็จประมาณเมื่อไหร่คะ

     อัลบั้มเดี๋ยวผมว่าภายในปีนี้ได้ออกแน่ๆ ถ้าตรงที่ตั้งไว้ก็จะประมาณ กันยา - ตุลา น่าจะได้เห็นเป็นรูปเป็นร่าง เป็นแผ่นครับ แต่ว่าจะมี ซิงเกิลเรียงออกมาก่อนที่อัลบั้มจะออก 

 

เตรียมพร้อมอุดหนุนกันได้นะคะ เล่าให้ฟังสักนิดหนึ่งค่ะ ว่าปกติทำอัลบั้ม ทำเพลงมีขั้นตอนอย่างไรบ้าง 

     ผมจะตั้งโจทย์หรือว่าตั้งคอนเซปต์ของเพลงก่อน เราอยากจะพูดเรามี message แล้วค่อยไปหาดนตรีที่เข้า แต่บางเพลงก็ขึ้นกับการที่เราไปเจอดนตรีที่เรารู้สึกว่าเราชอบ แล้วค่อยมาหาคอนเซปต์ที่เข้ากับเพลง ก็เริ่มจาก 2 อย่างนี้ ดนตรีหรือคอนเซปต์

 

คอนเซปต์อัลบั้มนี้เป็นอย่างไรคะ

     คอนเซปต์อัลบั้มนี้จะคิดเป็นเพลงๆ ไปแล้วค่อยมามองภาพรวมอีกที คอนเซปต์อัลบั้มนี้ก็เหมือนการเล่าเรื่องชีวิตที่ผ่านมา การที่ทำวงมา การสู้กับฮิปฮอปมา จนถึงวันนี้ ตอนนี้อยู่กรุงเทพฯ ปีที่ 10 ละก็พูดถึงชีวิตวัยรุ่น สภาพแวดล้อมต่างๆ ครับ 

 

 

Inside The Rapper 

ถามนิดหนึ่งสิ แต่งเพลงอย่างไร เรารู้สึกว่าพอเป็นเพลงแร็ป ใช้คำเยอะ ยิ่งบางคนแร็ปเร็วๆ นี่ คำมาจากไหน 

     จริงๆ ก็ต้องเป็นคนที่รู้ว่าเราจะพูดอะไร การแร็ปสำหรับผมเหมือนการพูด แต่ให้คำคล้องจองกันเท่านั้นเอง สมมติว่าเราจะพูดเรื่องที่เรารู้ว่าเราจะพูด ฉันรู้ดีเรื่องนี้ ก็เหมือนการเขียนหนังสือให้คล้องจองกัน เหมือนเขียนเรียงความ

 

ตอนเด็กๆ เขียนเรียงความเก่งเปล่า

     ก็ถือว่าชอบนะ เก่งไม่เก่งไม่รู้แต่ชอบ   มีคำนำที่ต้องเว้นบรรทัดมาใช่ไหมครับ (ยิ้ม) ผมจำไม่ได้ละ แต่รู้สึกคล้ายๆ กัน ส่วนใหญ่เพลงแร็ปดั้งเดิมจะมี 3 เวิร์ส (ท่อน) เกริ่นเหมือนคำนำ ตรงกลางใจความ แล้วก็สรุป ยกตัวอย่างง่ายๆ เวลาเขียนเพลงแร็ป ถ้าเรารู้สิ่งที่เราจะพูด เรารู้ message เหมือนเราเขียนเรียงความเราก็จะเขียนได้น่ะถ้าเราไม่มีความรู้ให้เราไปเขียน 1 เรื่องเลย ก็ยากฮะ

 

แต่งกลอนเก่งไหม 

     จำครั้งสุดท้ายที่แต่งไม่ได้ละ น่าจะ ป.4 

 

เรารู้สึกว่าคนที่ยิ่งแต่งคล้องจอง ต้องมีคำเยอะมากเลยใช่ไหม 

     ผมเป็นคนที่คำน้อย  ผมเป็นคนที่ไม่ค่อยรักการอ่านสักเท่าไหร่ เพราะฉะนั้นสไตล์ของผมเวลาเขียนจะใช้คำทั่วไปเลย ไม่มีคำหนังสือ คำโบราณนะฮะ เพราะเหมือนว่าเราไม่ได้ไปค้นคว้ารีเสิร์ช อันดับสอง ผมรู้สึกว่าการใช้คำพวกนี้เป็นคำทั่วไป เจอทุกวัน ได้ยินทุกวัน  ผมรู้สึกว่าสื่อถึงอารมณ์ได้ธรรมดาที่สุดและโดนที่สุด เรียบง่ายที่สุด 

 

เหมือนกับที่เขาพูดกันทุกวัน 

     ใช่ครับ  ภาษาพูด 

 

อยากถามว่า เราแร็ปสดได้ไหม 

     ได้ครับ ได้อยู่

 

อย่างนี้เราก็ต้องคิดก่อนว่าเราจะ พูดอะไรไหม

     อย่างที่บอกว่าถ้าเรารู้ว่าเราจะแร็ปเรื่องอะไร เราก็ไม่ต้องคิดไง 

 

แล้วฝึกอย่างไร 

     ถ้าเป็นเรื่องที่เรารู้  ก็ “ เย่! ก็ตอนนี้อยู่ที่แคท เรดิโอ วัน ทู อยู่กับไมโครโฟน ทูพี I got a flow ทำไมผมรู้ Because I already know” (โต้งแร็ปสด) ก็คือเรื่องที่เรารู้น่ะฮะ พูดเรื่องที่เรารู้ให้คล้องจองกันเท่านั้นเอง ถ้าให้ผมไปแร็ปเรื่องของที่มาการจัดแคททีเชิ้ตผมก็อาจจะไม่รู้รายละเอียด ผมก็อาจแร็ปไม่ได้ 

 

หัวเร็วมากเลย ตอนเรียนหนังสือ เรียนเก่งหรือเปล่า 

     ไม่ครับ (หัวเราะ) เหมือนกับการฝึกฝน ทำบ่อยๆ เป็นคำที่เราเคยใช้

 

ถ้าเกิดน้องๆ ที่ฟังอยู่ อยากแต่งเพลงแร็ป อยากเป็นแร็ปเปอร์บ้าง เขาต้องฝึกอย่างไร

     อยากให้เป็นนักฟังที่ดีครับอันดับแรก คอยฟัง คอยศึกษาว่าแร็ปเปอร์คนนี้เขามีเทคนิคแบบนี้นะ เทคนิคการสัมผัสเป็นแบบนี้นะ ก็อาจจะเป็นจุดเริ่มที่ทำให้รู้เทคนิคของแร็ปเปอร์แต่ละคนแล้วเอามาปรับใช้ได้ 

 

ส่วนใหญ่แร็ปเปอร์มีแบบไหนบ้างคะ 

     หมายถึงสไตล์เหรอครับ ที่เห็นชัดๆ ก็จะมีแบบแร็ปเล่าเรื่องอย่างที่บอกไป เป็นกาพย์กลอน เช่น Jay Z, NAS, Kendrick Lamar แล้วก็มีอีกอย่างที่ดังๆ อยู่กระแสในโลก เขาเรียกว่า MAMBO RAP ก็จะติดบ่น คุณก็ต้องเลือกว่าคุณอย่างเป็นแร็ปเปอร์แบบไหน ซึ่งจะแบบไหนก็ได้ ไม่ผิด เป็นแนวทางของแต่ละคน 

 

ก็ต้องหาสไตล์ตัวเองให้เจอก่อน โต้งพูดเร็วไหม 

     พูดก็เหมือนแร็ปเลยครับ ค่อนข้างเร็วครับ 

 

เวลาขึ้นเวที ส่วนมากเพลงที่แร็ปนี้คือ เราแต่งมาก่อน 

     ถูกต้องครับ หมายถึงบนเวทีคอนเสิร์ตใช่ไหมครับ 

ไม่ได้ขึ้นไปแล้วแร็ปสดได้เลย 

     ก็จะมีแร็ปสด เล่นกับคนดูบ้างครับ 

ถนัดแบบไหนมากกว่า 

     ถ้าถนัดก็คงต้องเป็นเพลงที่แต่งมาก่อน แต่บางทีการแร็ปสดก็ทำให้เราสนุก เพราะทุกๆ ครั้งที่คุณแร็ปสดขึ้นมา คุณจะไม่รู้ว่าคุณจะจบสวยหรือเปล่า แล้วจะตื่นเต้นในตัวไปเรื่อยๆ 

 

แร็ปเปอร์สอนน้อง

ถ้าน้องๆ อยากเป็นแร็ปเปอร์ อยากทำเพลงแร็ป นอกจากหาสไตล์ตัวเองได้แล้ว เราจะแนะนำน้องๆ อย่างไร 

     ถ้าอยากเป็นแร็ปเปอร์นะครับ นอกจากเป็นนักฟังที่ดี ก็ต้องเป็นนักเขียนที่ดี นักคิดที่ดี หลังจากเป็นนักฟังเราก็จะได้เทคนิค เราได้ไอเดีย ได้แรงบันดาลใจกลายเป็นนักเขียน นักคิดที่ดี เราก็เริ่มเป็นศิลปินละ เริ่มถ่ายทอดความคิดลงในกระดาษ เริ่มหัดเขียน หัดร้อง แร็ปเปอร์ที่สำคัญเวลาร้องต้องชัด เวลาแร็ปต้องชัดเจนนะครับ ถ้าเป็น Mambo Rapไม่ต้องชัดก็ได้นะครับ แล้วก็ต้องฝึกฝน แล้วก็เข้าสตูดิโอ

 

มีไกด์เนื้อหาหรือข้อกำจัดเนื้อหาของการแร็ปไหม 

     ไม่เลยครับ ฮิปฮอปเป็นแนวเพลงที่สามารถแร็ปได้เกี่ยวกับทุกอย่างเลย อาจจะเป็นแนวดนตรีแนวเดียวในโลกที่เนื้อหาพูดได้เยอะสุดเสียด้วยซ้ำ ความรัก สติ๊กเกอร์  ไมโครโฟน รถเสีย รถติด เสื้อผ้ารองเท้า มีเพลงเกี่ยวกับทุกอย่างที่เป็นฮิปฮอป แพนด้ายังร้องได้เลย ทุกอย่างจริงๆ ฮะ ฮิปฮอปเหมือนการพูด คุณจะพูดเกี่ยวกับอะไรก็ได้ 

 

ทำอย่างไรให้เรื่องที่เราอยากพูดน่าสนใจมากขึ้น 

     ขึ้นอยู่กับสไตล์การแร็ป ดนตรีก็มีส่วน 

 

ต้องทำการบ้านเยอะเหมือนกันเนอะ 

     เยอะเหมือนกันครับ เพราะอย่างที่บอกเนื้อหาก็เยอะ ต้องมาจัดเรียงคำ ดนตรีนี้มีส่วนครับ บีต คือ ความน่าสนใจเยอะอยู่เหมือนกัน เพราะเป็นเสียงสังเคราะห์ 

     ฮิปฮอปก็เอาดนตรีอะไรในโลกมาผสมกันได้หมด ถ้าสังเกตจะมีฮิปฮอปเร็กเก้ ฮิปฮอปฟังก์ ฮิปฮอปแจ๊ส ฮิปฮอปอีดีเอ็ม มีทุกแบบ รวมได้หมดเลย เพราะฉะนั้นมีความหลากหลาย  ความแตกต่างไม่จบไม่สิ้น 

 

ต้องฟังเยอะๆ ด้วย ทั้งเพลง ทั้งคน ทั้งเรื่องราว สำหรับน้องๆ ที่อยากจะเป็นแร็ปเปอร์ แล้วต้องเก่งภาษาอังกฤษไหม เพราะรู้สึกว่าเพลงของคนไทยก็มีภาษาอังกฤษเข้าไปเยอะ 

     อย่างไทเทเนียมจะมีภาษาอังกฤษเยอะ ถ้าจะเป็นแนวพี่ฟักกลิ้ง ฮีโร่ก็จะเน้นไทย เป็นสไตล์ของแต่ละคนไป 

 

แล้วแต่สไตล์ของแต่ละคน 

     จะแร็ปจีนก็ได้ครับ ภาษาอะไรก็ได้ อย่างผมมาจากภูเก็ต บางเพลงก็จะมีใต้เข้าไปผสม 

 

เป็นแนวเพลงที่ออกมาจากตัวเองเยอะเหมือนกัน

     100% ครับ การเอาตัวเองไปเป็นอาวุธน่ะครับ เรื่องราวที่ผ่านมา บ้านที่คุณเกิด แล้วสังเกตเขาก็ชอบแยกกันแบบเวสต์ไซด์ “ฉันมาจากนิวยอร์ก แล้วคุณมาจากไหน” “ฉันมาจากบรูคลิน บร็องซ์ ควีน” 

 

นี่ก็เป็นเบื้องต้นคร่าวๆ สำหรับใครที่อยากเป็นฮิปฮอปนะคะ แล้วมาพูดถึงสไตล์ของฮิปฮอปกันสักนิดหนึ่ง ทุกคนเหมือนมีคาแร็กเตอร์เป็นของตัวเอง ให้โต้งพูดถึงการแต่งตัวแบบฮิปฮอปสักนิดหนึ่ง

     คาแร็กเตอร์การแต่งตัว จริงๆ ก็แล้วแต่สไตล์เลย ถ้าเป็นเมื่อก่อนก็จะแอบคล้ายๆ กันครับ ใช้หมวกกีฬา เสื้อผ้าเจอร์ซี่ กางเกงดำทิมเบอร์แลนด์ รองเท้าบาสเกตบอล ตอนนี้คาแร็กเตอร์ก็หลากหลายแล้ว ฮิปฮอปบางคนก็แต่งตัวเป็นพังก์ แล้วก็เหมือนแฟชั่นกลับไปปี 90 ถ้าสังเกตดีๆ แฟชั่นเดี๋ยวนี้ที่เดินกันแถวสยาม มีโซ่ มีกระเป๋าข้าง ก็แปลกดีครับ

 

แล้วของโต้ง Twopee เป็นอย่างไร

     จริงๆ แล้วผมก็ไม่ได้เป็นคนแต่งตัวจัด บางวันก็จะมีสีบ้าง ตามเวลาไปออกงานคอนเสิร์ต ส่วนใหญ่ก็จะเป็นดำ ขาว แล้วก็ชอบใส่แบรนด์ของตัวเอง เหมือนได้ represent (แสดงออกความเป็นตัวเอง)ไปในตัว 

     แบรนด์ Southsidewear โลโก้ที่เห็นก็เป็นตัว SS เหมือนเป็นสายฟ้า และก็เข็มทิศ ก็ represent ว่า เซาท์ไซต์ครับ เน้นเรียบๆ ครับ ส่วนใหญ่จะเป็นสีดำกับเหลือง เพราะเป็นสีประจำวงของเรา แล้วก็ขาว ดำ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นเรียบๆ แล้วก็มีโลโก้ 

 

(ดูตัวอย่างเสื้อผ้าและผลิตภัณฑ์สไตล์ Southsidewear ใน ig @southsidewear)