Bed Tips Boy Trai
Bed Tips : ตรัย ภูมิรัตน
(เรียบเรียงจากการออกอากาศในรายการ Bedroom Studio เมื่อวันเสาร์ที่ 14 สิงหาคม 2564)
ทักทาย
(เรียบเรียงจากการออกอากาศในรายการ Bedroom Studio เมื่อวันเสาร์ที่ 14 สิงหาคม 2564)
ทักทาย
สวัสดีครับ ผมบอย ตรัย ภูมิรัตน นะครับ บทบาทก็เป็นสมาชิกวงดนตรี Friday แล้วก็ 2 Days Ago Kids นะครับ แล้วก็เป็นศิลปินเดี่ยว อาชีพหลักเป็นนักร้องนักแต่งเพลงครับ
ตอนนี้ก็เป็นอาจารย์พิเศษด้วยนะครับ สอนเกี่ยวกับการแต่งเพลงที่มหาวิทยาลัยศิลปากร ก็มีเขียนบทละครทีวีด้วยนะครับ (เช่น Cat Radio TV) และก็มีงานแสดง เล่นละครเล่นซีรีส์นิดหน่อยนะครับผม (เช่น ส่งร้อน เสิร์ฟรัก) นอกนั้นก็มีแต่เรื่องดนตรีครับ ที่ทำอยู่ตอนนี้ก็มีโปรเจกต์ที่ชื่อว่า Zentrady Galaxy เป็นโปรเจกต์ของตัวผมเองที่จะนำเสนอในบทบาทของการเป็นนักแต่งเพลงก็คือ แต่งเพลง โปรดิวซ์นะครับแล้วก็จะพยายามเชิญชวนเพื่อนๆ ในวงการมาร่วมสนุกกันครับ เพลงแรกออกไปแล้วนะครับชื่อเพลงว่า ‘วานวาฬเขาไป’ ก็ได้คุณว่านมาช่วยร้องนะครับ เพลงที่สองนี่กำลังจะปล่อยในเร็ววันนี้ละนะครับ อย่างไรก็ค่อยติดตามข่าวนะครับ”
วานวาฬเขาไป - Zentrady
กระบวนความคิดในการแต่งเพลง
ปกติเราจะเริ่มงานในช่วงที่เราคิดว่าเราไม่ฟุ้งซ่านอะไรมาก ไม่คิดเรื่องอื่นที่ไม่จำเป็น คือ แจ่มใสนะครับ และไม่มีเรื่องอะไรมากวนใจให้เราไขว้เขวไปคิดเรื่องอื่น อยู่ในสถานที่ที่ทำให้เรามีสมาธิ จริงๆ ก็ไม่ต้องเป็นสถานที่พิสดารอะไร ก็แค่ที่เงียบๆ นะครับ หรือที่ที่ไม่เงียบแต่เราสามารถอยู่ตรงนั้นได้โดยที่ไม่มีใครรบกวน ทำใจสงบๆ ว่างๆ ปลอดโปร่งนะครับ
แล้วก่อนที่จะเริ่มเพลงก็คือเราต้องมีสิ่งที่เราต้องการจะเล่าให้ชัดเจน ต้องตกผลึกสิ่งนี้มาก่อนให้ได้ ว่าเราอยากจะพูดเรื่องอะไร เราอยากจะถ่ายทอดสิ่งนี้ คำพูดหรือว่าความคิดนี้ออกมาอย่างไร ซึ่งสิ่งเหล่านี้บางทีอาจจะเป็นเรื่องที่ตกค้างอยู่ในใจเรานะครับ ก็คือเรื่องที่เราประทับใจแหละ บางทีมีเรื่อง มีประเด็น หรือว่าสิ่งที่เรารู้สึกว่าเราวางไม่ลงแฮะ เรื่องนี้เราอยากจะพูดถึงมัน นักแต่งเพลงน่าจะมีแนวคิดแบบนี้ก็คือมีสิ่งที่อยู่ในใจและอยากจะถ่ายทอดออกมา ฝากไว้ในเพลง ก็เอาสิ่งนี้ตกผลึกมาให้เรียบร้อยแล้วก็เริ่มต้นไป
ปกติเราจะเริ่มงานในช่วงที่เราคิดว่าเราไม่ฟุ้งซ่านอะไรมาก ไม่คิดเรื่องอื่นที่ไม่จำเป็น คือ แจ่มใสนะครับ และไม่มีเรื่องอะไรมากวนใจให้เราไขว้เขวไปคิดเรื่องอื่น อยู่ในสถานที่ที่ทำให้เรามีสมาธิ จริงๆ ก็ไม่ต้องเป็นสถานที่พิสดารอะไร ก็แค่ที่เงียบๆ นะครับ หรือที่ที่ไม่เงียบแต่เราสามารถอยู่ตรงนั้นได้โดยที่ไม่มีใครรบกวน ทำใจสงบๆ ว่างๆ ปลอดโปร่งนะครับ
แล้วก่อนที่จะเริ่มเพลงก็คือเราต้องมีสิ่งที่เราต้องการจะเล่าให้ชัดเจน ต้องตกผลึกสิ่งนี้มาก่อนให้ได้ ว่าเราอยากจะพูดเรื่องอะไร เราอยากจะถ่ายทอดสิ่งนี้ คำพูดหรือว่าความคิดนี้ออกมาอย่างไร ซึ่งสิ่งเหล่านี้บางทีอาจจะเป็นเรื่องที่ตกค้างอยู่ในใจเรานะครับ ก็คือเรื่องที่เราประทับใจแหละ บางทีมีเรื่อง มีประเด็น หรือว่าสิ่งที่เรารู้สึกว่าเราวางไม่ลงแฮะ เรื่องนี้เราอยากจะพูดถึงมัน นักแต่งเพลงน่าจะมีแนวคิดแบบนี้ก็คือมีสิ่งที่อยู่ในใจและอยากจะถ่ายทอดออกมา ฝากไว้ในเพลง ก็เอาสิ่งนี้ตกผลึกมาให้เรียบร้อยแล้วก็เริ่มต้นไป
ส่วนกระบวนการที่เป็น physical ก็คือเรามักจะเริ่มด้วยเมโลดี้นะครับ เมโลดี้ที่เราถูกใจ หรือว่าเมโลดี้ที่เราคิดว่าเราลองบรรเลง ฮัมเพลงดูแล้วทำนองเข้ากับเรื่องราวที่เราจะพูดนะครับ เพลงช้า เพลงเศร้า เพลงฟีลกู้ด เพลงให้กำลังใจ ท่วงทำนองมันจะบอกว่าเข้ากับเรื่องราวนี้ไหม หรือว่าบางทีตอนที่เราแต่งทำนอง เราอาจจะนึกถึงเรื่องราวนี้แหละ เพื่อที่จะสร้างบรรยากาศแบบนั้นออกมาในเพลงครับ
ส่วนเริ่มต้นแต่งเพลง ผมจะไม่มีกำหนดการในการแต่งเพลงหนึ่งเพลง บางทีก็แต่งเสร็จเร็ว บางทีทุกอย่างมันปริ่มล้นอยู่ในใจ พรั่งพรูออกมานี่ก็แป๊บเดียวเสร็จ แต่ถ้าบางทีมันยังไม่ตกผลึก เราเริ่มทำไปแล้ว เราค้างๆ คาๆ บางทีบางเพลงอาจจะค้างเป็นปีก็ได้ ไม่ได้มีบทสรุป นอกจากจะมีเดดไลน์นะ ถ้ามีเดดไลน์ ก็ต้องทำให้เสร็จให้ทัน แล้วจริงๆ เดดไลน์ก็สำคัญที่สุด เชื่อว่าคนที่ทำงานศิลปะหรือทำงานที่สร้างสรรค์นี่ ไม่มีเดดไลน์ก็อยากจะทำ อยากจะปรับ อยากจะแก้มันเรื่อยๆ อยากจะเล็มแต่ง ไม่มีวันจบสิ้น เดดไลน์ก็คือสิ่งที่จะช่วยเราบอกหมุดหมายว่าจบเพลงนี้
ดวงอาทิตย์
การเรียบเรียงเพลง
ส่วนวิธีการเรียบเรียง สไตล์ส่วนตัว หลายๆ เพลงนะ ไม่ใช่ทุกๆ เพลง ผมจะชอบทำสิ่งที่ มันคอนทราสต์กัน เช่น เรื่องที่เศร้ามากๆ บางทีเราก็ใช้ดนตรีที่สวยงามหรือมีความสุข ดึงความตรงข้ามออกมากลบเกลื่อน ผมจะชอบแบบนั้น ผมว่าบางทีเพลงเศร้ามากๆ แต่ว่ามีความหวังในดนตรีหรือเนื้อหา ถ้ามันขัดแย้งกัน เหมือนได้ดึงเอาอีกด้านหนึ่งออกมาด้วยเพื่อที่จะทำให้มันมีมิติอะไรบางอย่างที่น่าสนใจ จะชอบอะไรแบบนั้น
ส่วนวิธีการเรียบเรียง สไตล์ส่วนตัว หลายๆ เพลงนะ ไม่ใช่ทุกๆ เพลง ผมจะชอบทำสิ่งที่ มันคอนทราสต์กัน เช่น เรื่องที่เศร้ามากๆ บางทีเราก็ใช้ดนตรีที่สวยงามหรือมีความสุข ดึงความตรงข้ามออกมากลบเกลื่อน ผมจะชอบแบบนั้น ผมว่าบางทีเพลงเศร้ามากๆ แต่ว่ามีความหวังในดนตรีหรือเนื้อหา ถ้ามันขัดแย้งกัน เหมือนได้ดึงเอาอีกด้านหนึ่งออกมาด้วยเพื่อที่จะทำให้มันมีมิติอะไรบางอย่างที่น่าสนใจ จะชอบอะไรแบบนั้น
ไม่รู้สึกอะไรเลย – ตรัย ภูมิรัตน
เพลงครู
เพลงที่จัดว่าเป็นครูของผมนะครับ ก็มากมายนะฮะ ไม่สามารถที่จะระบุได้ เพราะว่าผมเชื่อในเรื่องที่เพลงแต่ละเพลง ถ้าได้ถ่ายทอดความจริงอะไรสักอย่างออกมา ผ่านการกลั่นกรองออกมาจากใจเขาแล้ว น่าฟังทั้งนั้น ไม่มีอะไรที่จะมาปิดกั้นหรือว่าคนละแนวหรือคนละยุค เพราะฟังได้ทั้งนั้นและทุกเพลงก็สามารถชื่นชมได้ทั้งนั้นคับ
ปัญหาในการแต่งเพลงและวิธีแก้ไข
ปัญหาที่พบบ่อยที่สุดเวลาแต่งเพลงนะครับ ผมมีปัญหาบ่อยมาก ผมก็ทำด้วยความที่ผมเล่นดนตรีไม่เก่ง เวลาจะแต่งหรือเราจะสร้างเพลงขึ้นมาเพลงหนึ่งก็ต้องใช้ความพยายามมากมาก คิดมากๆ เลยน่ะ สิ่งที่เราได้ยินในหัวเรา จะอธิบายออกมาอย่างไรดี เพื่อที่จะเอาไปทำต่อได้ ค่อนข้างเป็นเรื่องยากเหมือนกัน อันนี้เป็นปัญหาข้อแรกนะครับ
สองก็คือการทำงานสร้างสรรค์น่ะ ไม่เหมือนกับการคำนวณที่ 1+1=2ไรงี้ เราไม่สามารถที่จะให้คำตอบได้เดี๋ยวนั้น บางทีต้องผ่านความคิดหรือใช้เวลากับมันหรือตกผลึก หรือการที่อารมณ์ที่อาจจะมี ณ ช่วงขณะนั้น พูดง่ายๆ ก็คือ บางทีมันเอาแน่เอานอนไม่ได้ เราต้องทำจิตใจเราให้ปลอดโปร่งเสมอครับ
ข้อสามนะครับ ถ้ามันเป็นการรับจ้าง สิ่งที่ประสบปัญหาบ่อยๆ ก็คือการสื่อสาร เพราะว่าบางทีลูกค้ากับเราอาจจะอธิบายไม่เข้าใจกัน ความต้องการไม่ตรงกัน คือ คิดว่าเข้าใจตรงกันแต่ว่าบางทีมันไม่ได้เห็นภาพเดียวกัน สิ่งที่ยากที่สุดก็คือ การที่เราจะสื่อสารคุยกันอย่างไรให้เห็นภาพเดียวกันที่จะทำเพลงเพลงหนึ่งออกมา น่าจะเป็นปัญหาที่นี่แหละ คลาสสิก 3 ข้อครับ
สองก็คือการทำงานสร้างสรรค์น่ะ ไม่เหมือนกับการคำนวณที่ 1+1=2ไรงี้ เราไม่สามารถที่จะให้คำตอบได้เดี๋ยวนั้น บางทีต้องผ่านความคิดหรือใช้เวลากับมันหรือตกผลึก หรือการที่อารมณ์ที่อาจจะมี ณ ช่วงขณะนั้น พูดง่ายๆ ก็คือ บางทีมันเอาแน่เอานอนไม่ได้ เราต้องทำจิตใจเราให้ปลอดโปร่งเสมอครับ
ข้อสามนะครับ ถ้ามันเป็นการรับจ้าง สิ่งที่ประสบปัญหาบ่อยๆ ก็คือการสื่อสาร เพราะว่าบางทีลูกค้ากับเราอาจจะอธิบายไม่เข้าใจกัน ความต้องการไม่ตรงกัน คือ คิดว่าเข้าใจตรงกันแต่ว่าบางทีมันไม่ได้เห็นภาพเดียวกัน สิ่งที่ยากที่สุดก็คือ การที่เราจะสื่อสารคุยกันอย่างไรให้เห็นภาพเดียวกันที่จะทำเพลงเพลงหนึ่งออกมา น่าจะเป็นปัญหาที่นี่แหละ คลาสสิก 3 ข้อครับ
ลาก่อนพิน็อคคิโอ – ตรัย ภูมิรัตน
คำแนะนำที่เคยได้รับ
อายุมากแล้วก็ตั้งแต่เกิดมาถึงทุกวันนี้ก็ได้รับคำแนะนำมาเยอะนะ จะไปบอกว่าอันไหนดีกว่ากันก็ยาก เอาเป็นว่าคำแนะนำที่เราซาบซึ้งใจล่าสุดก็คือจากภรรยา ในวันที่เราท้อแท้ วันที่เราไม่มีกะจิตกะใจจะทำอะไร ทำเพลงหรือทำงาน เขาบอกเราว่า “ทำไมต้องไปคอยคิดว่าจะมีใครฟังเราฟังเพลงเราหรือเปล่า ทำไมไม่ถามตัวเองว่าเราอยากฟังเพลงที่เราทำหรือเปล่า” เรารู้สึกว่า เป็นคำแนะนำที่ง่ายๆ แต่ว่าสิ่งที่เราทำ เราต้องชอบมันก่อน ถ้าเราชอบแล้วเดี๋ยวเรื่องอื่นมันก็คงมีทางมาเองแหละ
คำแนะนำที่ส่งต่อจากประสบการณ์
คำแนะนำจากประสบการณ์ตนเองที่อยากส่งต่อให้นักดนตรีรุ่นใหม่ สนุกกับสิ่งที่ทำนะครับ ทำด้วยความรัก ทำด้วยความชอบ ใช้หัวใจที่เบิกบานแจ่มใส ใช้หัวใจที่เปี่ยมล้นนะครับ ให้ความรู้สึกมันล้นทะลักออกมาเป็นเพลง ใช้หัวใจที่เราเลือกแล้วว่าเราอยากจะให้คนได้ยินสิ่งนี้ ให้โลกได้ยินเพลงนี้ ผลักดันให้เกิดงานเกิดเพลงขึ้นมาครับ
จดหมายถึงตัวฉันในอนาคต - บอย ตรัย ภูมิรัตน
นอกจากเป็นนักแต่งเพลง นักร้อง นักดนตรี อาจารย์ และคุณพ่อ รวมถึงนักแสดงแล้ว บอย - ตรัย ภูมิรัตน ยังเป็นดีเจนักอ่านจดหมายประจำรายการจดหมายเด็กแมวที่ Cat Radio ทุกวันอังคาร สามทุ่มถึงเที่ยงคืนด้วย เขียนจดหมายมาให้พี่บอยอ่านได้ จะถามเรื่องเพลง เรื่องอาหาร หรือเรื่องใดๆ
ตัวอย่างรายการจดหมายเด็กแมว
แล้วมาติดตามเคล็ดลับการแต่งเพลงของศิลปินคนต่อไปได้ที่นี่ และฟังสดได้ทุกวันเสาร์เวลา 11.00-14.00 ในรายการ Bedroom Studio ที่ Cat Radio #bedtipsbybedroomstudio
